บทความที่ได้รับความนิยม

3/27/2554

เจี๋ยนปลากระบอกต้มเต้าซี่

อารมณ์ คุณนายที่ 4 เข้าสิง อยากทำกับข้าวแบบจีนๆ เอาใจเจ้าสัวซะหน่อย


ปลาต้มเต้าซี่กระป๋องมีขายทั่วไปค่ะ ตามซุปเปอร์มาเก็ต ถ้ารู้จักเอามาประยุกต์ ก็จะได้อาหารจานใหม่ รสชาดอร่อยแบบประหยัดเวลา

ปลาเต้าซี่จะต้มมาแบบแห้งๆพร้อมเต้าซี่เม็ดดำๆ ที่อาจดูไม่น่ากิน แต่ขอบอกนะคะรสชาดเด็มมันอร่อยมาก ต้องลองค่ะ 

เครื่องปรุง
1. ปลาต้มเต้าซี่กระป๋อง 1 กระป๋อง
2.
พริกหนุ่มหั่นแฉลบๆ 2 เม็ด / ขิงซอย 1 กำมือใหญ่ / ต้อนหอมหั่นท่อน 2 ต้น / พริกแดงหั่นแฉลบ 2 เม็ด / กระเทียมไทยสับหยาบๆ/ ผักชี
3. เครื่องปรุง
น้ำมันพืช / น้ำปลาดี / ซอสปรุงรส /น้าตาลทรายนิดหน่อย / พริกไทย


ลงมือกันเลย
1.
เปิดกระป๋องปลากระบอกนึ่งเต้าซี่ แล้ว เทลงในจาน ที่สามารถทนความร้อนได้  จัดวางลงในซึ้งเตรียมนึ่ง
2. ตั้งกะทะ.พอร้อนใส่กระเทียมสับลงเจียวให้เหลืองหอม แล้วใส่ขิงซอยลงผัด พอขิงเริ่มส่งกลิ่นหอม เติมพริกหยวก พริกแดง โคนต้นหอม ลงผัดให้พอสุก (อย่าเติมน้ำซุปนะคะ เพราะเวลานึ่งจะมีน้ำออกมาจากปลาและผักอยู่แล้ว)
3. ปรุงรสด้วยน้ำปลาดี ซอสปรุงรส น้าตาลทรายนิดหน่อย พริกไทยโรยลงไปเยอะๆ หอมดี ปรุงให้ได้รสเค็มนำหวานนิดๆ รสจัดหน่อยก็ดีเพราะเนื้อปลาต้มเต้าซี่ไม่ค่อยมีรสชาดจัดจ้านมากนัก
4. ได้รสชาดดีแล้ว ปิดไฟเลยค่ะ แล้วตักทั้งหมดราดลงบนตัวปลานึ่งเต้าซี่ที่อยู่ในซึ้งเตรียมนึ่ง
5. นึ่งด้วยไฟกลาง ซัก 10 นาที 
6. ก่อนเสิร์ฟ โรยด้วย ต้นหอมหั่นท่อน ตกแต่งด้วยใบผักชี นิดหน่อย
7. ทานกับข้าวสวยร้อนๆ หรือข้าวต้มม้วย (ข้าวต้มแบบข้นๆไม่มีน้ำมาก) ก็อร่อย  

** แนะนำให้ทาน
ตอนร้อนๆ ถ้าจะทำเป็นกับข้าวต้มควรเพิ่มรสเค็มไปนิด จะได้รสชาดพอดี....รับข้าวเพิ่มไม๊คะ?

เรื่องและภาพโดยแจน พิมยาดา

http://twitter.com/starfishQ9 

3/26/2554

แกงแดงไก่ใส่มะเขือเปาะ

อร่อยแบบดั้งเดิม ด้วยเครื่องแกงตำเอง ได้รสเครื่องแกงสดๆ ล้ำลึกกว่าที่ซื้อตามตลาด 

แกงเผ็ด หรือแกงแดง ที่ซื้อตามตลาดหาที่อร่อยกินยากเต็มที อย่างแรกไม่ถึงเครื่องแกง แล้วก็น้ำแกงใส ไม่ข้นเข้ม ตอนเด็กยายบังคับให้ช่วยตำเครื่องแกง เวลายายจะทำแกงใดๆ วันนี้ต้องขอบคุณยาย เพราะหลานได้กินของอร่อยๆ โดยไม่ต้องง้อใคร
เครื่องปรุง
1. เครื่องแกง - พริกขี้หนูแดง ข่า ตระไคร้ กระเทียม หอมแดง ผิวมะกรูด ใบมะกรูด กะปิดี เกลือป่น
2. เน้ืออกไก่ 1 ชิ้น เครื่องในไก่ 2 พวง หั่นชิ้นพอดีๆ
3. มะเขือเปราะ ผ่า แช่น้ำเกลือไว้จะได้ไม่ดำ
4. กะทิกล่องกลาง 1 กล่อง (ใช้ไม่หมดเก็บไว้ได้นะคะ) 
5. พริกชี้ฟ้าหั่นเฉียง 2 เม็ด / ใบโหระพาเด็ด 1กำมือ / ผักชีใบเรื่อย 1 ต้นหั่นท่อนๆ / ใบมะกรูดฉีก
6. เครื่องปรุง - น้ำปลาดี น้าตาลปีบนิดหน่อย


ลงมือกันเลย
1. ตำพริกแกงให้ละเอียดยิบ เตรียมไว้
2. ตั้งกะทะ..พอร้อนใส่กะทิลงไ
ปเคี่ยวพอเดือด ใส่พริกแกงลงไปผัดให้หอมฟุ้ง ใช้ไฟอ่อนๆ นะคะ จนกะทิแตกมัน เครื่องแกงสีสวย
3. ใส่เนื้อไก่ลงไปผัดให้สุก เติมกะทิลงไป เคี่ยวจนเนื้อไก่สุกดีทั่วก
ัน 
4. ใส่มะเขือเปราะลงไป ทิ้งไว้ซักครู่พอมะเขือสุกด
ี ปรุงรสด้วยน้ำปลาดี น้ำตาลปี๊บ ให้ได้รสเค็มหวานกะทิ 
5. ได้รสชาดดีแล้ว เติมพริกชี้ฟ้าหั่นเฉียง ใบโหระพา ผักชีใบเรื่อย และ ใบมะกรูดฉีก พริกแดงทั้งเม็ด ลงไป คนให้เข้ากันดี
6. ปิดไฟ..แล้วตักเสิร์ฟ เลยค่ะ ตกแต่งด้วย ยอดโหระพา ก็สวยดี 
7. ราดขนมจีน หรือ ราดข้าว ก็อร่อยด้วยกันทั้งนั้น 

** แนะนำให้ทานกับ ไข่เค็ม หรือ ปลาเค็มทอด จะอร่อยมากขึ้นไปอีก ..รับข้าวเพิ่มไม๊คะ? 


เรื่องและภาพโดยแจน พิมยาดา

3/12/2554

ข้าวหน้าหมูกรอบ

หมูกรอบอร่อยๆ ทำกินเองก็ได้ ง่ายมากค่ะ ไม่ต้องไปซื้อหา ราคาแพงด้วยซิ่


หมุกรอบสูตรนี้ทำเก็บไว้ในตู้เย็นเวลาอยากทานก็เอามาทอด กินร้อนๆ กับข้าวสวย หรือเป็นของแนม กับ อาหารประเภทแกงเผ็ด ก็อร่อยไม่แพ้กันค่ะ อย่างแรกที่ต้องพิถีพิถันหน่อยก็คือ การเลือกหมูสามชั้นที่ตลาด แบบที่เค้าแร่เป็นชิ้นยาวๆไว้แล้ว ให้เลือกที่เนื้อแดงเยอะหน่อยมันน้อยๆ แต่แจนว่า จะกินหมูกรอบทั้งที อย่าได้ได้กลัวเลยค่ะ แจนจะเลือกที่มีเนื้อสองสีเท่าๆกัน เวลาเคี้ยวได้รสมันหมูลึกล้ำได้อารมณ์หมูกรอบแบบเต็มๆ นาทีนี้ไม่แคร์สื่อค่ะ..555

เครื่องปรุง
1. หมูสามชั้นชิ้นยาวๆ ซัก 2 - 3 ชิ้น เลือกตามชอบนะคะจะมันมากมันน้อยไม่ว่ากัน
2. กระเทียม พริกไทย รากผักชี โขลกละเอียด
3. แป้งมัน
4. น้ำมันสำหรับทอด
5. เครื่องปรุงรส ซีอิ๋วขาว น้ำตาล ซอสปรุงรส  

ลงมือกันเลย
1. ล้างหมูสามชั้นให้สอาด พักไว้ให้สะเด็ดน้ำแห้งดี
2. เอากระเทียม พริกไทย รากผักชี โขลกละเอียด ลงกาละมังใบย่อม เติมเครื่องปรุงรส ซีอิ๋วขาว น้ำตาล ซอสปรุงรส ผสมให้เข้ากันดี
3. นำเนื้อหมูลงคลุกเคล้าให้ทั่ว เติมแป้งมันลงไปซัก 1 ช้อนโต๊ะ หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นซัก 1 ชม.
4. เอาแป้งมันแห้งเทลงบนถาด เอาหมูลงแนบแป้ง ทาแป้งทั่วๆ ให้แป้งเกาะติดเนื้อหมูเสมอกันทั้งชิ้น
5. ตั้งกระทะน้ำมันสำหรับทอด ใช้ไฟกลางค่อนข้างอ่อนนะคะ ไม่งั้นหมูจะใหม้ก่อนสุก
6. เอาเนื้อหมูลงทอดเลยค่ะ รอให้หมูสุกเหลืองดีแล้วด้านหนึ่ง จึงค่อยกลับ ทอดให้เป็นสีเหลืองทองสวย จึงตักออกใส่ตระแกรงสะเด็ดน้ำมัน
7. รอให้เนื้อหมูกรอบเย็นลงก่อนนะคะ แล้วจึงค่อยหั่นเป็นชิ้นๆขนาดพอคำ
8. เอาข้าวสวยมา จัดหมูกรอบลงด้านข้าง โรยต้นหอมซอยนิดหน่อยเพื่อสีสันที่น่าทานมากขึ้น
9. ทำแจ่วพริกป่นแบบง่ายๆ น้ำปลา พริกป่น มะนาว น้ำตาล ข้าวคั่ว ผสมกัน โรยต้นหอมซอยนิดนึง
10. จะรออะไรล่ะคะ ต้องทานร้อนๆ อร่อยซะลืมเรียกเพื่อนเลยค่ะ

หมูที่หมักไว้แล้ว เราเก็บไว้ทอดวันหน้าบ้างก็ได้ แต่ต้องแช่เย็นจัด หมักนานหน่อยยิ่งอร่อย หมูจะนุ่มขึ้นหอมเครื่องหมัก โอยยย ไม่ไหวแล้วค่ะขอตัวไปซื้อหมูสามชั้นก่อนนะคะ บะบายๆ
เรื่องและภาพโดยแจน พิมยาดา

http://twitter.com/starfishQ9

3/06/2554

ลาบหมู

ลาบหมูเจ้าอร่อยที่ติดใจ ไปกินทีต้องสั่งเบิ้ลไปเลย 2 จานเพราะจานเล็กนิดเดียว แปลกนะอาหารอีสาน พวกลาบ น้ำตก ถ้ามาเป็นจานใหญ่ๆ จะลดความอร่อยไปเยอะเลย แต่ถ้าเป็นจานเล็กๆ แบบที่ต้องแย่งกันกิน จะอร่อยเป็นพิเศษ 
ลาบหมูทำไม่ยากนะคะ แต่เครื่องปรุงทุกอย่างต้องสดใหม่ ข้าวคั่วใหม่ๆหอมกลิ่นข้าวใหม้นิดๆ พริกป่นคั่วเองที่ทั้งเผ็ดและฉุน เนื้อหมูสับหยาบๆ เครื่องในหมูสด น้ำมะนาวบีบจากลูกสดๆใหม่ๆ
เครื่องปรุง
1. เนื้อหมูสันนอกสับหยาบๆ
2. หนังหมูหั่น
3. ตับหมูลวกสุกปานกลาง
4. ข้าวคั่วใหม่ตำละเอียดปานกลาง
5. พริกป่นคั่วใหม่
6. หอมแดงไทยซอย / ผักชีใบเรื่อยซอยหยาบ / ต้นหอมผักชีซอย / ใบมะกรูกซอยละเอียด 1 ใบ / ใบสาระแหน่ / พริกทอด
7. เครื่องปรุงรส - มะนาวลูก / น้ำปลาดี / น้ำตาลนิดหน่อย
8. ผักสดกินแนม ถั่วผักยาว/กะหล่ำปลี/ผักกาดหอม/ใบโหระพา.. 
ลงมือกันเลย
1. ตั้งหม้อเล็กบนไฟอ่อนๆ ใส่เนื้อหมูสันนอกสับหยาบ เติมน้ำลงไปนิดหน่อย คั่วให้หมูสุกดี เติมหนังหมู ตับลวกสุกลงไปผสมคนต่อให้สุกทั่วกัน
2. ยกหม้อลงจากเตา เตรียมปรุงรส ใส่ข้าวคั่วซัก 1 ช้อนโต๊ะ/น้าปลาดี / น้ำตาลนิดเดียวลงไปตัดรสหน่อย เพราะเราไม่ใช่ผงชูรส / บีบมะนาวลงไป 1 ลูก / โรยพริกป่นลงตามแต่ชอบเผ็ดมากน้อย คนให้ทุกอย่างเข้ากันดี
3. ได้รสชาดดีแล้ว เติมหอมแดงซอย ผักชีใบเรื่อยซอยหยาบ / ต้นหอมผักชีซอย / ใบมะกรูกซอยละเอียด 1 ใบ ลงไปผสมให้เข้ากันดี 
4. ตักใส่จาน โรยด้วยใบสาระแหน่ พริกทอด 
5. เสิร์ฟพร้อมผักสดที่เตรียมไว้ 

ลาบทำทานกับข้าวสวยก็อร่อยดี นะคะ หรือจะเอาข้าวเหนียวลงจ้ำตามแบบดั้งเดิมก็สุดยอด กินกันหลายๆคน หมุบหมับๆ อร่อยตรงแย่งกัน นี่แหละค่ะ

* ทำเสิร์ฟทีละจาน จะอร่อยกว่าทำทีละมากๆนะคะ เพราะอาหารพวกยำทิ้งไว้นานหน่อยก็จะเซ็ง รสเปลี่ยน 
เรื่องและภาพโดยแจน พิมยาดา

เต้าเจี้ยวหลน

เครื่องจิ้มผักสดรสชาดไทยแท้ ที่เด็กๆก็ทานได้เพราะมีรสหวานมันกะทิ ไม่เผ็ดถ้าไม่กัดพริกเข้าไปด้วย เต้าเจี้ยวหลน ไงคะ


ตอนเป็นเด็ก แจนขอให้ยายสอนทำหลนเต้าเจี้ยว เป็นเมนูแรกๆเลยเพราะ ตืดใจรสชาดมันหวาน หอมเต้าเจี้ยวขาว ยายเลยสอนวิธีแบบโบราณสูตรของยายให้เป็นสมบัติติดกายมาจนทุกวันนี้

เครื่องปรุง
1. เต้าเจี้ยวขาว เอาแต่เนื้อถั่ว 1 ถ้วย
2. กุ้งสับ - หมูสับ เอาหมูสามชั้นปนลงไปซัก 1 ส่วนจะทำให้ได้เนื้อหมูสับที่นุ่มกว่าใช้เนื้อหมูแดงล้วน
3. กระทิ - หัวกระทิ
4  พริกหยวก หั่นท่อน 1 นิ้ว
5. พริกใหญ่ 3 สี - เขียว แดง เหลือง หั่นท่อน 1 นิ้ว
6. หอมแดงไทยซอย
7. รากผักชี
8. ใบผักชีไว้โรยหน้า
9. เครื่องปรุง - น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ
10. ผักสดประดามี ได้แก่ ถั่วพลู แตงกวา มะเขือเปาะ ถั่วฝักยาว ผักกาดขาว


ลงมือกันเลย
1. ล้างเต้าเจี้ยวขาว 2 รอบให้สะอาดหมดเมือก
2. หั่นรากผักชีเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วโขลกให้ละเอียด ใส่เต้าเจี้ยวขาวลงโขลกผสมให้ได้ถั่วตำเนื้อหยาบๆ
3. ตั้งกะทิบนไฟอ่อน ๆ พอเดือดปุดๆ เติม ถั่วตำลงไปผสม แล้วเคี่ยวต่อให้เดือดอีกรอบ
4. เติมกุ้งสับ-หมูสับลงผสมเคี่ยวต่อจนเนื้อหมู/กุ้งสุกนุ่ม จึงใส่ พริกหยวก/พริกใหญ่สามสีหั่นท่อน
5. ปรุงรสด้วย น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ ให้ได้รสหวานมันกะทิ มีอมเปรียวนิด ระวังนะคะ เนื่องจาก เต้าเจี้ยวมีรสเค็มอยู่แล้วจึงไม่ต้องเติม เกลือ หรือ น้ำปลา
6. เคี่ยวต่ออีกซักพัก ให้พริกเปื่อยหน่อย แล้วเติมหอมแดงซอย โรยหัวกะทิ คนให้ทั่วแล้วปิดไฟเลยค่ะ
8. หลนทุกอย่าง เค้าจะไม่เสิร์ฟร้อน แต่จะรอให้เย็นก่อน จึงจัดลงถ้วย พอเย็นลงเนื้อหลนจะข้นขึ้น โรยหน้าด้วยใบผักชี จัดเสิร์ฟกับ ผักสดประดามี ได้แก่ ถั่วพลู แตงกวา มะเขือเปาะ ถั่วฝักยาว ผักกาดขาว หรือผักอื่นๆตามชอบ ไม่ผิดอะไรค่ะ

เวลากินหลน ต้องตักให้ครบทั้งเนื้อหลนและพริกราดลงบนผักสดให้ชุ่ม กินเป็นคำพร้อมข้าวสวย จึงจะอร่อยครบเครื่อง คิดถึงยายจัง
เรื่องและภาพโดยแจน พิมยาดา

3/04/2554

ผัดสุกี้แห้งเส้นราเม็ง

กินแต่ข้าวมาหลายมื้อก็เบื่อเหมือนกันนะคะ ลองมาหาอะไรเป็นเส้นๆทำทานบ้างก็ดี มีเส้นราเม็งเหลืออยู่ เอามาผัดดีกว่า


เส้นราเม็งสำเร็จรูปยี่ห้อที่มาจากญี่ปุ่น เกาหลี มีขายทั่วไปแหละค่ะหาไม่ยาก แจนว่าคุณภาพก็ดีพอๆกัน เวลาจะทำพวกเส้นบะหมี่ผัดแบบนี้  แจนชอบเส้นราเม็งมากกว่าเส้นบะหมี่สำเร็จรูปทั่วๆไป เพราะขนาดเส้นที่หนานุ่มเหนียวกว่า ผัดออกมาแล้วไม่เละ อร่อยกว่ากันเยอะเลยค่ะ 

เครื่องปรุง
1. เส้นราเม็งสำเร็จรูป 1 ห่อ 
2. ลุกชิ้นปลาดีผ่าครึ่ง 5 ลูก
3. เนื้ออกไก่ 1 ชิ้น หั่นเป็นชิ้นบางๆยาว 
4. น้ำมันพืชสำหรับผัด
5. กระเทียมสับละเอียด
6. ซอสสุกี้สำเร็จแบบขวด
7. เครื่องปรุงรส น้ำตาลทราย ซีอิ๋วขาว พริกป่น น้ำส้มสายชูหน่อยนึง
8. ผักที่ชอบ วันนี้มีเห็ดเลืออยู่ จัดการล้างสต็อกซะเลย ล้างให้สะอาดแล้วหั่นชิ้นใหญ่หน่อยนะ เพราะเห็ดพอสุกแล้วชอบหดลดขนาดลง ดูไม่สวย

ลงมือกันเลย
1. ตั้งหม้อน้ำ พอเดือด ใส่ราเม็งสำเร็จรูปลงลวก อย่าให้สุกเกินไปนะคะเดี๋ยวเราเอาไปผัดต่อแล้วจะเละ ไม่น่าทาน ใส่กระชอนเอาน้ำทิ้งให้หมด (อย่าไปทานเลยนะ รวมทั้งพวกเครื่องปรุงที่ติดมาด้วย เพราะมีผงชูรสเยอะมาก) ใส่น้ำมันพืชคลุกเตล้าซะหน่อยเส้นจะได้ไม่ติดกัน 
2. ตั้งกะทะเลย ใส่น้ำมันพืช พอร้อน ใส่กะเทียมสับเจียวให้หอม
3. ใส่เนื้อไก่ลงผัด สุกแล้วตามด้วยลูกชิ้นปลา 
4. เติมซอสสุกี้ลงไปผัดให้เข้ากันดี 
5. เติมผัก เห็ด บลอกคอรี่ หรือ อะไรก็แล้วแต่ ตามชอบ
6. ใส่เส้นลงผัดรวมกันให้เข้ากันดี ถ้าแห้งไปเติมซอสลงไปอีกนิดนะคะ
7. ปรุงรส ด้วย น้ำตาลทราย ซีอิ๋วขาว พริกป่น น้ำส้มสายชูหน่อยนึง ให้ได้รสตามชอบค่ะ
8. ปิดไฟแล้วตักใส่จานเสิร์ฟเลยค่ะ 

วันนี้พอดีเหลือบไปเห็นหนังปลาแซลมอน กรอบที่เหลือจาก Party คืนก่อน จับมาโรยหน้าซะเลย ดูมีเรื่องราวมากขึ้น เพิ่มTexture เวลาเคี้ยวกรอบๆด้วย... จานนี้อร่อยดีเพราะมีเส้น แล้วยังได้เคลียของในตู้เย็นด้วย ... 

เรื่องและภาพโดยแจน พิมยาดา

กุ้งผัดต้นหอมราดข้าวไข่ดาว

อาหารจานพิเศษจานเดียว อิ่มอร่อยทำเองก็ได้ อร่อยสะอาดกว่าแบบตามสั่งตั้งเยอะ



กุ้งผัดต้นหอมราดข้าวไข่ดาว หลังจากคิดไม่ออกแล้วก็ไปลงที่กระเพราราดข้าวซะหลายมื้อ วันนี้มาลองอะไรที่ต่างไปบ้าง แต่อร่อยเหมือนเดิมค่ะ

เครื่องปรุง
1. กุ้งทะเลแกะ ผ่าหลัง 5 ตัว 
2. ไข่ไก่ 1 ฟอง
3. น้ำมันพืช
4. กะเทียม พริกขี้หนูแดงโขลกหยาบ
4. หอมใหญ่ 1/2 ลูกเล็ก หั่นยาวๆ 
5. ต้นหอม 3 ต้น หั่นท่อน  
6. มะเขือเทศสีดาหั่นสาม 2 ลูก  แล้วบีบเอาเมล็ดออก 
7. ข้าวสวย 1 จาน
8. เครื่องปรุง - น้ำปลาดี น้ามันหอย ซอสปรุงรส น้ำตาลทรายนิดหน่อย

ลงมือกันเลย
1. ตั้งกะทะให้ร้อนใส่น้ำมันพืช พอร้อนตอกไข่ลงดาว เสร็จแล้วตักแยกไว้
2. เติมน้ำมันลงไปอีกนืด เอากะเทียม พริกขี้หนูแดงโขลกหยาบ ลงผัดให้หอม 
3. ใส่กุ้งลงไปผัดให้กุ้งสุกทั่ว ติมน้ำซุปนิดหน่อยนะคะ ถ้าแห้งไป 
4. ปรุงรส ด้วย น้ำปลาดี น้ามันหอย ซอสปรุงรส น้ำตาลทรายนิดหน่อย
5. ใส่ หอมใหญ่ มะเขือเทศ ลงผัดให้สุกทั่วกัน 
6. ใส่ต้นหอมลงไป ผัดเร็วๆ แล้วปิดไฟเลยค่ะ 
7. เอาข้าวสวยใส่ถ้วยกดให้แน่นนิดนึง แล้วคว่ำใส่จาน ก็จะได้ข้าวสวยกลมกลึงในจานเหมือนตามร้านเค้าทำ 
8. ตักกุ้งผัดต้นหอมในกะทะลงเคียงข้างข้าว แล้ว เอาไข่ดาววางลงบนข้าว หรือจะวางแบบไหนก็แล้วแต่ชอบค่ะ
9. เสิร์ฟเลยค่ะ  

อาหารจานเดียว ประหยัดทั้งเวลาและงบค่ากับข้าว ทำเสร็จใหม่ๆ ร้อนๆ ทานเลย อร่อยสะอาด ไม่ต้องออกไปทานข้าวนอกบ้าน ในวันฝนตกแบบนี้ 

เรื่องและภาพโดยแจน พิมยาดา

ข้าวคลุกกุ้งผัดพริกสดใบโหระพา

อาหารเย็นจานเดียวง่ายๆ ที่อร่อยลืมจนเพื่อนถาม มีเหลืออีกไม๊!!


เดี๋ยวนี้ไปซื้อกุ้งที่ตลาด เค้ามีบริการแกะให้ด้วยนะคะ ชอบที่สุดอ่ะค่ะ เพราะการแกะกุ้งเสียเวลาและก็เหม็นคาว แถมเปลือกกุ้งหัวกุ้งที่เหลือยังมีกลิ่นเหม็นมากหากทิ้งไว้ข้ามคืน

ทำงานไปเพลินๆ รู้ตัวอีกทีหิวข้าวตาลาย ลองค้นตู้เย็นดู เจอของเก่าๆ เลยเอามาสร้างเมนูจานเดียว ที่แสนง่าย แถมอร่อยดีไม่มีใครเหมือน ลองมำทานดูนะคะ แล้วจะติดใจค่ะ

เครื่องปรุง
1. ข้าวสวยเย็นๆที่เหลืออยู่ในหม้อข้าวตั้งแต่มื้อกลางวัน เอามาซุยให้ร่วน พักเอาไว้
2. กุ้งทะเลแกะผ่าหลัง 5 -6 ตัว
3. พริกแดงกับกะเทียมตำหยาบๆ
4. โหระพาเด็ดใบ
5. หอมใหญ่ หั่นยาวๆ
6. มะเขือเทศราชินี 2 ลูกหั่นลูกละ 3 ชิ้น บีบเอาเมล็ดออกซะ

ลงมือกันเลย
1. ตั้งกะทะใส่น้ำมันพืชลงไปพอร้อน เอาพริกแดงกับกะเทียมตำหยาบๆ ลงผัดให้หอมฟุ้ง
2. ใส่กุ้งแกะลงไปผัด พอกุ้งสะดุ้งไฟ เติมข้าว ลงไปใช้ทัพพีบี้ข้าวซุยดี
3. ปรุงรสตามชอบ ด้วยน้ำปลา ซอสปรุงรส น้ำตาลนิดหน่อย ผัดให้เข้ากันดี
4. ใส่หอมใหญ่ มะเขือเทศลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน ผัดด้วยไฟแรงๆ
5. โรยใบโหระพาลงไป แล้วผัดให้ผสมกันดี
6. ปิดไฟ ตักใส่จานเสิร์ฟ โรยหน้าด้วยใบโหระพา นิดหน่อยพองาม

"อร่อยดีอ่ะ มีอีกไม๊เธอ" เพื่อนสาวตัวอ้วนถาม...555 เห็นไม๊คะบอกแล้วว่าจะติดใจ..
เรื่องและภาพโดยแจน พิมยาดา

ขนมจีนน้ำยาปลาทูน่า


เดี๋ยวนี้จะหาขนมจีนน้ำยากะทิอร่อยๆ หายากเต็มทีค่ะ ประเภทน้ำยาปลาช่อนที่มีไข่ปลาลอยหน้าหม้อน้ำยาเป็นแพแบบในงานบุญสมัยก่อนนั้น เห็นจะไม่มีแล้วหละค่ะ ด้วยปัจจัยหลายอย่าง ไม่ว่าจะราคาปลาช่อนที่แพงเกิน กิโลละร้อยไปแล้ว ขั้นตอนที่ซับซ้อน หรือ จะเป็นอีกร้อยแปดเหตุผล ก็ช่างเถอะค่ะ วันนี้เรามาทำน้ายากะทิแบบลดขั้นตอนทานกันเอง ดีกว่า

แจนแนะนำนะคะ เป็นน้ำยาปลาทูน่ากระป๋อง เพราะไม่ต้องต้มหรือแกะเนื้อปลาให้ยุ่งยากอีก 

เครื่องปรุง
1. ปลาทูน่าในน้ามันพืช 1 กระป๋อง
2. กะทิคั้นสด 1 กิโล
3. พริกแกงแดง 2 ขีด
4. กระชาย ปรมาน 10 ราก/ผิวมะกรูด/กระเทียมไทยแกะเปลือก
5. ลูกชิ้นปลาอย่างดีตามชอบ / หรือจะเป็นตีน(เท้า)ไก่ ก็ได้ค่ะถ้าชอบ
5. เครื่องปรุงรส น้ำตาลปี๊บ เกลือ น้ำปลาดี 
6. เครื่องเคียง - ถั่วงอกลวก/ลวก - ใบแมงลัก - ถั่วฝักยาว หรือผักสดตามชอบ
7. ขนมจีน

ลงมือกันเลย
1. เตรียมเครื่องแกง
1.1 ตำผิวมะกรูด กับ กระเทียมให้ละเอียด
1.2 ขูดผิวกระชาย หั่นเป็นท่อนเล็กๆ แล้วโขลกให้ละเอียด
1.3 ใส่พริกแกงแดงลงไป ในครกแล้วผสมเครื่องแกงทั้งหมดด้วยกัน โขลกต่อให้ผสมละเอียด ดี
2. เทปลาทูน่าออกจากกระป๋อง เก็บน้ามันไว้ เอาแต่เนื้อปลา โขลกรวมกับพริกแกงให้เป็นเนื้อเดียวกัน
3. ตั้งกะทิบนไฟอ่อนๆ ผสมเครื่องแกงทั้งหมดลงไป พร้อมน้ำมันปลาทูน่า เคี่ยวต่อจนเดือดปุดๆ
4. ใส่ลูกชิ้นปลาลงไป เคียวต่ออีกซักพัก (ถ้าชอบตีนไก่ ก็ให้ซื้อที่เท้าอวบๆ เอามาทำความสะอาดตัดเล็บให้เรียบร้อย แล้วต้มเคี่ยวด้วยไฟอ่อนๆ โยนตะไคร้ทุบลงไปซัก 2 ต้น เคี่ยวทิ้งไว้ซัก 30-40นาที ก็จะได้ตีนไก่เปื่อยนุ่ม ไม่แตกเละแบบที่ใช้ไฟแรงๆต้ม)
5. ปรุงรสด้วย น้ำปลาดี เกลือ น้ำตาลปี๊บ ให้เค็มปะแล่มหวานกะทิ
6. เสิร์ฟได้แล้วค่ะ


ปลาทูน่า กระป๋องเดียว แต่เวลาทำออกมาแล้วได้น้ายากะทิหม้อย่อมๆ พอทานได้ 4-5คนเลยนะคะ เหมาะที่จะทำทานกันวันหยุด ในครอบครัวหรือในกลุ่มเพื่อน ช่วยกันหยิบนั่นนี่ แป๊บเดียวก็เสร็จ ได้ทานของอร่อยที่เราทำเอง ภูมิใจด้วยค่ะ
เรื่องและภาพโดยแจน พิมยาดา

3/03/2554

ต้มกะทิใบเหลียงกุ้งสด

ใบเหลียง หรือว่าใบเหมียงก็เรียก เป็นผักพื้นบ้านมีมากแถบภาคใต้บ้านเรา ต้นเป็นทรงพุ่มค่อนข้างใหญ่ แตกใบอ่อน ยอดอ่อน ตลอดปีโดยเฉพาะช่วงหน้าฝน เก็บใบกินไม่ทันเลยค่ะ ใบเหลียงมีรสมัน อร่อย นิยมเอามาผัดไข่ ต้มกะทิ หรือกินสดๆก็ได้ เดี๋ยวนี้แจนเห็นมีใบเหลียงขายตามตลาดใน กทม หรือ ซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไปแล้วค่ะ ไม่แพงด้วยกำละ 10 บาท ประมานนั้น


ไปกระบี่คราวที่แล้ว แจนได้ไปชิมอาหารร้านเรือนไม้ ร้านมีชื่อของเมืองกระบี่ ขึ้นชื่อเรื่องอาหารพื้นเมืองกระบี่รสชาดจัดจ้าน คงเอกลักษณ์รสชาดแท้ๆไว้ ไม่เปลี่ยนแปลง

โชคดีวันนั้นเราได้มีโอกาศได้คุยกับเจ้าของร้าน โกเลี้ยง หนุ่มเลือดกระบี่แท้ๆชอบการทำอาหารแล้วก็ Big Bike พอๆกัน โกเลี้ยงเล่าเรื่องอาหารให้ฟัง พร้อมแนะนำ อาหารหลากหลายรายการ หอยชักตีน แกงไตปลาพื้นถิ่นใส่มันเทศ กุ้งผัดกะปิใส่สะตอ น้ำพริกกุ้งเสียบ ปลาอินทรีย์ทอดราดซีอิ๋ว และอีกมากมายค่ะ แล้วแจนจะเก็บมาเล่าให้ฟังแต่ละเรื่องนะคะ 

ปกติแจนชอบกินต้มกะทิใบเหลียงเลยเอารายการนี้มาเริ่มก่อน ต้มกะทิแบบนี้ตอนเด็กๆ จำได้ว่ายายชอบทำให้หลานๆกินกันบ่อยๆ เพราะเป็นเมนูเด็กแบบไม่เผ็ด สูตรของยายเป็นเส้นแกงร้อน (วุ้นเส้น) ใส่กุ้งแห้ง ไข่ไก่ กับฟักแก่ด้วย อร่อยไปอีกแบบ วันนี้เป็นสูตรต้มกะทิใบเหลียงทางกระบี่ก่อนนะคะ

เครื่องปรุง
1. กะทิสด
2. ใบเหลียงเด็ดยอดอ่อน/ใบกึ่งอ่อนกึ่งแก่ เคี้ยวได้รสมันๆ ผิวสัมผัสเต็มคำกว่ายอดที่อ่อนๆไปเลย
3. กุ้งทะเลสด สัก 10 ตัว แกะเปลือกเอาหัวทิ้ง ผ่าหลังเอาขี้ออก ล้างเตรียมไว้
4. กะปิดี ซัก ช้อนโต๊ะเดียวก็พอ
5. กุ้งแห้งเนื้อ ไม่มีเปลือก แช่น้ำทิ้งไว้ให้นุ่ม
6. หัวหอมแดงไทย ทั้งลุกบุบๆ ซัก 4-5 หัว
7. เกลือ - น้าตาล นิดหน่อย

ลงมือกันเลย
** เคล็ดลับของต้มกะทิที่อร่อยคือกะทิไม่แตกมันลอยเป็นขั้น เพราะฉนั้นตลอดการปรุงจะต้องใช้ไฟอ่อนๆเท่านั้น นะคะ
1. เอากะทิใส่หม้อพอประมานกะพอตักแล้วได้ 1 ถ้วยแกง อุ่นด้วยไฟอ่อนพอเริ่มร้อน ละลายกะปิดีลงไป แล้วเติมเกลือ น้ำตาล ลงไปเลยค่ะ
2. ใส่กุ้งแห้ง และ หัวหอมแดงบุบ ลงไป รอพอร้อนซักพัก จึงใส่กุ้งสด 
3. ตามด้วยใบเหลียงลงไปแล้วคนให้น้ำกะท่วมทั่ว ใบเหลียงจะยุบตัวลงไปกว่าครึ่งเลยค่ะ
4. ใจเย็นๆ อย่าให้กะทิเดือดนะคะ จนกะทั่งใบเหลียงสลบสุกทั่วกัน
5. ยกหม้อลงเลยค่ะ ทิ้งเอาไว้แล้วไปทำอาหารรายการอื่น  ปล่อยให้ใบเหลียงซึมซับน้ำกะทิ เสร็จแล้วจึงตักเสริ์ฟ


เลือกถาชนะที่ใช้เสิร์ฟเป็นสีเขียว จะทำให้ต้มกะทิสีเด่นขึ้น สวยและก็อร่อยด้วยค่ะ สาวๆที่มีแฟนหนุ่มใต้ ต้องลองหัดทำดูนะคะ เอาไว้มัดใจคุณพ่อคุณแม่สามีไงคะ อิอิ เสร็จเรา!!!
เรื่องและภาพโดยแจน พิมยาดา

3/02/2554

ข้าวผัดปู

ดูเหมือนง่ายๆ แต่ไม่ใช่ทุกคนจะทำได้อร่อย นะคะ เหมือนหลายอย่างในชีวิตเรา ไม่ง่ายอย่างที่คิด


ข้าวผัดปูที่อร่อยสำหรับแจนต้องไม่แห้งจนเกินไป หรือขาวซีดไม่มีสีสัน ที่สำคัญเนื้อปูต้องชัดเจน อย่ามาหลอกเอาข้าวผัดกลิ่นปู มาให้กินทีเดียวนะ มีเคือง วันนี้ฝนพรำๆ มาทำข้าวผัดปูกินกันดีกว่า

เครื่องปรุง
1.ข้าวสวยที่เหลือจากเมื่อเย็น เอาเข้าตู้เย็นไว้ นำมาบี้ให้ร่วนเมล็ดข้าวไม่ติดกันเป็นก้อน แม่บอกถ้าจะหุงข้าวไว้ผัดให้ใส่น้ำน้อยหน่อย จะได้ข้าวเม็ดสวยไม่พองน้ำมากเกินไป ผัดแล้วไม่แฉะ ที่สำคัญต้องไม่เอาข้าวที่สุกใหม่ๆมาผัด เพราะเดี๋ยวข้าวผัดจะเละติดกันเป็นก้อน
2. น้ำมันพืช
3. กระเทียมสับละเอียด
4. เนื้อปูม้าแกะ เวลาเลือกซื้อให้เลือกที่ใหม่สด เนื้อปูแห้งไม่มีน้ำเยิ้ม
5. ไข่ไก่
5. หอมใหญ่หั่นยาวๆ หรือแบบลูกเต๋าก็ได้
6. มะเขือเทศหั่นตามยาว หรือ ลูกเต๋าก็ได้
7. ต้นหอม ผักชี ซอยหยาบๆ
8. เครื่องปรุงรส เกลือ ซีอิ๋วขาว ซอสปรุงรส น้ำตาล

ลงมือกันเลย
1. ตั้งกะทะ พอร้อนใส่น้ำมันพืช เจียวกระเทียมพอหอม
2. ตอกไข่ไก่ลงไป ยีเบาๆให้ไข่แดงแตก ปล่อยให้ไข่สุก จึงผัดให้ทั่ว
3. ใส่ข้าวลงไปเลยค่ะ ใช้ตะหลิวบี้ให้ข้าวโดนความร้อนทั่วกัน จนข้าวร่วนซุยดี
4. เติมเครื่องปรุงรส เกลือ ซีอิ๋วขาว ซอสปรุงรส น้ำตาล ลงไปชิมรสตามชอบนะคะ (ที่ใส่เกลือเพราะเราไม่อยากให้ใช้เครื่องปรุงรสที่เป็นน้ำมากไป เดี๋ยวข้าวผัดจะแฉะไปไม่อร่อย)
5. ผัดต่อให้เครื่องปรุงเข้าเนื้อข้าวผัดจนดีแล้วก็ใส่หอมใหญ่มะเขือเทศ ผัดต่ออีกนิดใช้ไฟแรงๆเลยค่ะ จะได้กลิ่นหอมของข้าวที่โดนไฟแรงๆ หอมดีจัง
6. โรยต้อนหอม ผักชีซอยลงไปหน่อย ผัดให้ทั่ว
7. ปิดไฟ แล้วตัก แจกกันทานได้แล้วค่ะ เสริ์ฟพร้อม ต้นหอมสด แตงกวา น้ำปลาพริกมะนาว

อร่อยแบบไม่ต้องง้อ ร้านชายเล ที่ไหน แถมได้กินข้าวผัดปูตัวจริง เนื้อจริง ไม่ได้มาแต่วิญญาณพี่ปู ด้วยค่ะ
เรื่องและภาพโดยแจน พิมยาดา