บทความที่ได้รับความนิยม

2/28/2554

หมูหวาน

" หมูหวาน " จะเป็นจานหลัก หรือ เครื่องเคียง ก็อร่อยลืม ทั้งนั้นเลยค่ะ


ตอนเด็กๆ แจนชอบรบเร้าให้แม่ทำหมูหวานบ่อยๆ เพราะรสชาดหวานนำไม่เผ็ด ถูกใจเด็กๆ

หมูหวานที่แจนคุ้นเคยแต่เด็ก จะเป็นแบบเนื้อนุ่มเปื่อย หอมเครื่องเทศ มีน้ำซอสขลุกขลิกแบบคลุกข้าวกินจนหมดไม่เหลือติดก้นจานเลยค่ะ หมูหวานของแม่จะไม่มันมากแบบที่ใช้หมูสามชั้นมาทำ แม่จะใช้ส่วนของสันคอหมู ที่นุ่มและมีมันปนอยู่แล้ว

หมูหวานที่ดี จะต้องไม่แข็งกระด้างถึงแม้จะทิ้งไว้นาน แม่บอกว่าที่หมูหวานแข็งกระด้างเพราะน้ำตาลที่รัดชิ้นเนื้อหมู เมื่อเคียวน้ำตาลไปนานหน่อย มันก็จะทำเนื้อหมูกระด้างแข็ง ทานไม่อร่อย ปกติที่บ้านเราทำหมูหวานทีละเยอะๆ แล้วเก็บไว้ทานได้หลายๆวัน บางวันมีกับข้าวเผ็ดๆ แม่ก็เอาหมูหวานมากินแนมแก้เผ็ด หรือเก็บไว้ประกอบเครื่องข้าวคลุกกะปิ ที่จะขาดหมูหวานไม่ได้เด็ดขาด

เครื่องปรุง
1. เนื้อสันคอหมู หั่นยาวๆ กำลังดี
2. รากผักชี กะเทียม พริกไทย โขลกละเอียด
3. ลูกผักชี ยี่หร่า คั่วหอม โขลกละเอียด (1-2 ช้อนชาก็พอ)
4. หอมแดงไทย ซอย
5. น้ำตาลปี๊บ / ซีอิ๋วขาว / ซีอิ๋วดำ

วิธีทำ
1. ตั้งกระทะใส่น้ำเปล่าลงไปนิดหน่อย แล้วนำเนื้อหมูลงไปรวนให้สุกดี ซัก 15 นาที พักไว้
2. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันพอร้อน นำหอมแดงซอยลงบเจียวพอสีหอมแดงเริ่มเปลี่ยน ใส่ รากผักชี กะเทียม พริกไทย โขลกละเอียด เจียวต่อจนหอมดี
3. ใส่น้ำตาลปี๊บลงเคี่ยว ให้เป็นฟองเหนียวเป็นคาลาเมล จึงใส่หมูลงไป หรี่ไฟให้อ่อน เติม ซีอิ๋วดำไปนิดหน่อยกะให้พอได้สีสวย อย่าให้ดำมากนะคะ หมูหวานจะสีไม่สวย เติมซีอิ๋วขาว รวนต่อโดยใช้ไฟอ่อนๆ อีกซัก 10 นาที
4. ตอนนี้หมูหวานจะเริ่มมีสีสันขึ้น เติม ลูกผักชี ยี่หร่า คั่ว ผัดให้เข้ากันดีทิ้งไว้อีกพัก ลองชิมดู
5. หมูหวานก็ควรจะมีรสชาด หวานนำ นะคะ เค็มอ่อนๆ และ มีน้ำซอสขลุกขลิก ไม่แห้งจนเกินไป


แค่นี้แหละค่ะ ตักเสิร์ฟได้เลย อยากให้สวยหน่อยก็ โรยใบผักชีไปนิดก็ได้นะคะ

หมูหวานแจนทำเอง..อร่อยเหมือนแม่ทำเลยค่ะ ลองทำทานกันดูนะคะ      


เรื่องและภาพโดยแจน พิมยาดา



          

2/26/2554

เดอะชาโตเบียง สเต๊กอร่อย ที่ เชียงใหม่

แจนไปเชียงใหม่มาเมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อนสาวนักกินประจำหัวเมืองเหนือ พาไปลองชิมเสต๊กที่เธอบอกว่า เริ่ดมาก..อืมมม ของเค้าดีจริงๆค่ะ




ร้านนี้เค้าเอาดีทางเสต๊กเท่านั้นนะคะ จึงเสริ์ฟเฉพาะสเต้กเท่านั้น เมนูมีตั้งแต่สเต๊กหมุ เนื้อ ไก่ ไปถึงสเต็กปลา คัดสรรวัตถุดิบใหม่สด และปรุงแบบ Home Made แบบที่เจ้าของทานเอง จึงได้รสชาดล้ำลึกแบบที่หาไม่ได้ที่ร้านอื่นซึ่งส่วนใหม่ทำแบบทีละมากๆ น้ำซอสเกรวี่เคี่ยว แบบ Slow Cook มากกว่า 6 ช.ม. ได้ซอสรสล้ำหอมละมุน แจนชอบที่ขอเติมได้ด้วย แบบไม่อั้นนี่แหละค่ะ เห็นไม๊คะ เจ้าของร้านใจดี น่ารักแบบนี้นี่เอง ทำให้อาหารอร่อยขึ้นอีกหลายเท่า

เดอะชาโตเบียงสเต้กอร่อย เยื้องโรงแรมลานนาพาเลซ ถนนช้างคลาน เป็นร้านเล็กๆขนาด 20 ที่ นั่งสบายเหมือนไปนั่งทานอาหารที่บ้านเพื่อนค่ะ คุณเกรียงเดช เจ้าของร้านเป็นนักชิม และชอบทำอาหาร อัธยาศัยน่ารักคอยต้อนรับและแนะนำ เมนูเสต๊กอร่อยหลากหลายรายการ รวมทั้งไวน์ ที่ลงตัวกับเสต๊กที่เราสั่ง

ราคาเริ่มต้นที่จานละ 150 บาท แนะนำนะคะขนมปังกระเทียมหอมกรุ่น Galic Butter ลองแล้วต้องขอเพิ่ม เป็น Side Dish อีกที่ค่ะ  

มาเที่ยว เชียงใหม่ อย่าลืมนะคะ เดอะชาโตเบียง สเต๊กอร่อย ค่ะ

เรื่องและภาพโดยแจน พิมยาดา

ขนมก้นถั่ว



ขนมก้นถั่วเนื้อแป้งนุ่ม รสมันหวาน เค็มน้อยๆ มีถั่วทองคั่วรองก้น จึงมีชื่อเรียกว่า "ก้นถั่ว"

ขนมก้นถั่วเป็นขนมพื้นถิ่นแถบเมืองชล ค่ะ จริงๆแล้วขนมก้นถั่วไม่ได้มีเครื่องปรุงหรือวิธีการทำที่ยุ่งยากซับซ้อนอะไรมากมายนะคะ แต่เชื่อไม๊ หาที่ทำอร่อยจริงๆยากนะ เพราะบางเจ้าแป้งจะกระด้าง คืนตัวแข็งไม่อร่อยเวลาทิ้งไว้นานๆ

ขนมก้นถั่วทำมาจากแป้งข้าวเจ้า ผสมน้ำกระทิ น้ำตาลทราย และ เกลือ โดยผสมหัวกะทิ น้ำตาลทราย และ เกลือ และแป้งข้าวเจ้า ได้น้ำแป้งรสชาด หวานมันเค็ม ก่อนนำไปหยอดใส่ถ้วยตะไลที่มี ถั่วทองคั่วรองก้นไว้แล้ว จึงนำไปนึ่ง ประมาน 15 นาที เท่านี้ก็ได้ ขนมพื้นบ้านแสนอร่อย กินอร่อยแบบแคะจากถ้วยตะไล ไม่ทันทีเดียวค่ะ


เครื่องปรุง
  • ถั่วเขียวเราะเปลือก 1/2 ถ้วยตวง
  • กระทิคั้นข้น 1.5 ถ้วยตวง
  • น้ำตาลทรายขาว 1 ถ้วยตวง
  • เกลือป่น 1 ช้อนชา
  • แป้งข้าวเจ้าผง 1 ถ้วยตวง
วิธีทำ
  1. คั่วถั่วทองให้เหลืองหอม แล้วแช่ในน้ำร้อนให้พองนุ่ม เอาใส่ก้นถ้วยๆ  
  2. แบ่งกระทิ 1 ถ้วยตวง ใส่น้ำตาลและเกลือป่นลงในกระทิ คนให้ละลายแล้วกรองด้วยผ้าขาวบางลงในอ่างผสม ใส่แป้งลงคนให้เข้ากัน
  3. เรียงถ้วยตะไลซึ่งใส่ถั่วไว้ลงในหม้อนึ่ง นึ่งให้ร้อน (ใช้เวลาประมาณ 5 นาที) คนแป้งแล้วใส่ลงให้เกือบเต็มถ้วย
  4. หยอดหน้าแต่ละถ้วยด้วยหัวกระทิที่แบ่งไว้ ปิดฝาหม้อนึ่ง นึ่งประมาณ 8 นาที ยกลงทิ้งให้เย็น แกะใส่จานเป็นอันเสร็จ.
ถ้ามีโอกาส ผ่านมาแถวเมืองชล ต้องลองหาชิมดูนะคะ เชื่อแจนซิคะ แล้วจะติดใจ ต้องมาเมืองชลบ่อยๆทีเดียวเลยหละค่ะ


เรื่องและภาพโดยแจน พิมยาดา

หมูทอดสมุนไพร ปากช่อง กระบี่



ไปกระบี่เที่ยวที่แล้ว ได้ไปทานข้าวแกงร้านอร่อยที่ปากช่อง อำเภออ่าวลึก ขอบอกว่าของเค้าดีจริงๆ อร่อยทุกอย่าง แบบที่แจนยอมยกดาวให้หมดฟ้าเลยค่ะ

วันนี้เอาตัวอย่างมาเรียกน้ำย่อย ซะหนึ่งรายการก่อนนะคะ เป็น หมูทอดสมุนไพรค่ะ ดูสีสันซิค่ะเหลืองทองอร่ามแบบเสมอกันทุกชิ้น พี่แอ๊ดเจ้าของร้าน บอกว่าเธอพิถีพิถันกับการเลือกเนื้อหมูโดยใช้เนื้อหมูสันนอกแบบมีมันติดนิดหน่อย แล้วนำมาแล่ยาวๆขนาดพอดีคำ หลังจากนั้นก็คลุกเคล้าเครื่องสมุนไพรตำละเอียด มีทั้งกระเทียม รากผักชี ตะไคร้ ลูกผักชียี่หร่าคั่วหอม ปรุงรสด้วยน้ำปลาน้ำตาลให้ได้รสชาดเค็มหวานกำลังดี โรยด้วยใบเตยหั่นเป็นท่อนๆ หมักเอาไว้ค้างคืน ก่อนนำมาทอดในน้ำมันร้อนปานกลางชนิดที่น้ำมันท่วมเนื้อหมู (Deep Fried) นะคะ  อืมม.. หอมไปทั่ว 8 ทิศเลยค่ะ ใจเย็นๆ จนกระทั่งได้หมูทอดสีเหลืองทอง ก็ตักขึ้พร้อมเสริฟ ทานร้อนๆ กับข้าวสวย ทานเล่นๆ หรือ จะแกล้มแกงเผ็ด ก็อร่อยไปหมดค่ะ

จานนึงไม่พอแล้วหละค่ะ แบบนี้ต้องเบิ้ลนะคะ


เรื่องและภาพโดยแจน พิมยาดา

2/18/2554

แกงส้มปลาใบขนุน

ปลาทะเลตัวแบนๆ เท่าฝ่ามือ เนื้อแน่นไม่ยุ่ยง่าย ทำแกงส้มแกงป่า อร่อยนักแล


เวลาไปตลาดเห็นปลาแปลกๆที่คุ้นเคยแล้วนึกถึงแม่ เพราะแต่ก่อนเวลาไปตลาดกับแม่ แม่จะคอยบอกปลาแบบนี้เรียกว่าอะไรเอาไปทำอะไรอร่อย รักแม่ที่สุดอ่ะ

แจนไม่ค่อยได้เห็นปลาใบขนุน หรือ บางทีก็เรียกปลาแป้น ปลาโนรี ตามแถวนี้ (สัตหีบ) บ่อยนักนะคะ วันนี้ได้เจอกันก็เป็น ฤกษ์ดีนะจ๊ะ มาๆๆ จับมาทำ แกงส้มซะเลย..

บอกแม่ค้าว่า ช่วยทำให้หน่อยได้ไม๊ แม่ค้าเหวี่ยงเล็กน้อยแล้วบอกว่า ปลาตัวเล็ก ไม่ทำค่ะ..ทำไงดีล่ะ ถึงคิวแล้วหละ แจนทำเองก็ได้ ว่าไปแล้วจะไปเอาอะไรกับป้านักหนา ก็ โลละแค่ 40 บาท ยังจะมาให้กรูทำให้อีกเนี่ยนะ..ว่าแล้วป้าก็เหวี่ยง เบาๆ..

1 กิโล ได้ประมาน 8 ตัว มาถึงก็เริ่มพิธีการ ขอดเกล็ด เออแฮะไม่ยากนะ เกล็ดเล็กๆบางๆ แค่เอามีขอดย้อนจากหางมาหัวก็ออกไปหมดแบบง่ายดาย ตัดหัวออก ล้วงใส้ทิ้งไป ล้างให้สอาด แล้วใส่ ตระแกรงสะเด็ดน้ำ แค่นี้ก็ได้ปลาใบขนุน พร้อมแกง แล้ว ง่ายนิดเดียว

แจนซื้อน้ำพริกแกงส้มมา 10 บาท แล้วก็ มะละกอดิบสับที่แม่ค้าสับใส่ถุงไว้ มาหนึ่งถุง 10 บาท มะขามเปียก 1 ถุง 20 บาท (แพงนะเนี่ย) พริกแดง ลูกมะกรูด แล้วก็ใบมะกรูด แค่นี้แหละเครื่องปรุง

เตรียมคั้นน้ำมะขามเปียกไว้แล้ว ก็เอาหม้อใบกลางใส่น้ำตั้งไฟ พอเดือดก็เอาพริกแกงลงไปคนให้ละลาย  ปรุงด้วยน้ำมะขาม น้ำตาลปึก เกลือ น้ำปลา เดือดอีกทีก็ใส่มะละกอดิบสับลงไป  ปล่อยให้เดือดซักครู่ จึงเอาปลาค่อยๆใส่ไปให้หมด ห้ามคนนะคะ เดิือดอีกทีแล้ว ลองชิมซิคะ เติมรสชาดตามชอบค่ะ เปรี้ยวเค็มหวาน 3 รสนะคะถึงจะอร่อย ทุบหอมแดง พริกขี้หนู ใส่ แล้วโรยน้ำมะกรูด ใบมะกรูดลงไป ลดไฟให้เดือดปุดๆ อีก 5 นาทีก็ยกลงได้แล้วค่ะ

มาเลยๆ ต้องทานร้อนๆ เนื้อปลาขาวๆ ร่อนออกจากก้างกลางตัวง่ายๆแค่เอาช้อนแซะ ราดน้ำแกงส้มชุ่มๆ มีปลาเค็ม หรือของทอดอื่นเคียงไปด้วย โอวววววว ขอบคุณเมืองไทย และ รักแผ่นดินนี้ค่ะ


เรื่องและภาพโดย: แจน พิมญาดา

หมึกผัดกะเทียมพริกไทย

หมึกสดหวานกรอบ หอมซอสกระเทียมพริกไทย

เมื่อเย็นไปตลาดเห็นหมึกหอมตัวยาวสดจี๋ เลยได้ไอเดียมื้อเย็นท้าคอเลสเตอรอล ซะเลยค่ะ " หมึกกระเทียมพริกไทย " วันนี้อารมณ์อยากกิน แบบมีซอสกระเทียมพริกไทยหอมๆคลุกข้าวร้อนๆน่ะ


หมึกหอมตัวยาว ประมานตัวละ 2 ขีด เอามาล้างทำความสอาด เอาหมึกดำๆ ลูกตาแล้วก็กระดองแข็งๆยาวๆกลางตัวออก แล้วหั่นขวางประมาน 1 ซม. พักไว้ก่อน เสร็จแล้วเตรียม เครื่องผัด ก็มีแค่กระเทียม รากผักชี พริกไทย โขลกให้หยาบๆ เสร็จแล้วก็มาลงมือทำกันเลยดีกว่า


ตั้งกะทะพอร้อนเอาน้ำมันพืชสำหรับผัดลง พอร้อนซักนิดก็ใส่เครื่องที่โขลกไว้ลงผัดให้หอมฟุ้งไป 3 บ้าน แจนว่าเจียวเครื่องให้เหลืองซักนิดก็ดีนะคะ จะได้หอมๆ จากนั้นก็เอาปลาหมึกที่เตรียมไว้ใส่ลงไปเลย ปกติปลาหมึกเห็นไฟก็จะสุกแล้ว ช่วงนี้ก็ปรุงรสด้วยซอสปรุงรส น้ำมันหอย ตัดน้ำตาลซักนิด แทน ผงชูรส ผัดต่อให้หมึกเด้งกรอบแล้วก็ปิดไฟเลย ตักใส่จาน เรียกสมาชิกมาได้เลย ทานร้อนๆกับข้าวสวย เอาน้ำซอสคลุกข้าว อย่างเดียวก็อร่อยแล้ว...คนที่ชอบเผ็ดนะคะแนะนำให้ทำน้าปลาพริกขี้หนูซอยโรยมะนาวนิดนึง


โอยยยย ขอข้าวเพิ่มอีกจานนึงซิคะ


เรื่องและภาพโดย: แจน พิมยาดา


2/15/2554

อูด้งกุ้งเผา


กินเส้นกันดีกว่า..จะได้ไม่ทะเลาะกัน




อาหารเส้นที่ทำจากแป้งสารพัดชนิด ก็มีชื่อเรียกแตกต่างกันไป อีกทั้งอร่อยคนละแบบ ต้องขอบคุณที่ความสร้างสรรค์ ของคนรุ่นก่อนๆ ที่นำ เส้นนานาชนิดมาปรุง ทั้งเส้นสดและเส้นแห้ง ไม่ว่าจะเป็นไทย จีน ญี่ปุ่น อิตาลี ส่วนกรรมวิธีการผลิตของเส้นแต่ละชนิดก็คล้ายๆกัน เริ่มจากผสมแป้ง น้ำและวัตุปรุงรสต่างๆ นวดให้เข้ากัน รีดให้เป็นแผ่น ตัดเป็นเส้น จากนั้นทำให้เส้นสุก (ถ้าเป็นเส้นแบบแห้งก็เอาไปอบหรือทอดต่อ)

ที่เราคุ้นเคยมาแต่เด็ก ก็มากมายนับไม่ถ้วนแล้ว เช่น ก๋วยเตี๋ยวสารพัดประดามี ผัดไทย ผัดซีอิ๋ว ก๋วยเตี๋ยวคั่ว เส้นจันทร์ ก๋วยเตี๋ยวแคะ ก๋วยจั๊บ บะหมี่ ข้าวซอย ขนมจีน สปาเกตตี มักกะโรนี พาสต้า โอยย..ไม่ไหวจะลิสต์ ออกมาหมด

วันนี้ แจนเก็บของในตู้เย็นมาทำข้าวเย็น เลยได้เส้นอุด้งผัดซอสสูตรแจนเอง


ก่อนอื่น ทำซอสสูตรมหัศจรรย์ก่อน มีน้ำพริกเผากุ้ง เต้าหู้ยี้ขาวผสมเต้าเจี้ยวขาว ซอสสุกี้ยากี้ น้ำมันงา แล้วก็ เหล้าจีน เคี่ยวทั้งหมดด้วยไฟอ่อนๆ พอได้ซอสข้นเหนียวเป็นอันใช้ได้...ขอบอกนะคะ อร่อยมากมาย

ผัดเส้นอุด้งหนับนุ่มเข้าเนื้อกับซอสสูตรพิศดาร รสล้ำลึกสไตส์เอเชียนฟิวชั่น มีปลาหมึกกับหอยเชลล์ เพิ่มรสชาติด้วยกุ้งแม่น้ำเผา เนื้อหนั่นแน่นหอมหวาน จานนี้อร่อยล้ำ แบบทานหมดไม่รู้ตัว.

ทำให้คนที่รัก ทานวันวาเลนไทน์ อร่อยเพิ่มขึ้นอีก 2 เท่าเลยค่ะ

เรื่องและภาพโดย : พิมยาดา

ยำไข่ต้มยางมะตูม

" แม่ๆ..ไข่ยังไม่สุกเลยค่ะ " แม่แอบอมยิ้มแล้วบอก เป็นยางมะตูมแบบนี้แหละอร่อย.. 

ไข่ต้มยางมะตูมไม่ได้ทำยากเย็นอะไรเลย มีเคล็ดลับนิดเดียวคือเวลาที่ต้มต้องต้มน้ำให้เดือดก่อนนะคะแล้วใส่เกลือลงไปนิดหน่อยเพราะจะทำให้ไข่ปอกง่ายขึ้น ปอกออกมาแล้วผิวไข่สวย ไม่ขรุขระ หย่อนไข่ลงไปแล้วลดไฟลงนิดนะคะ ให้เดือดแบบปุดๆ ต้มต่อไปไม่เกิน 7 นาที แต่ก็ต้องคำนึงถึงขนาดของไข่ด้วยนะคะ ทีี่บ้านแจนชอบใช้ไข่เป็ดฟองใหญ่ๆแม่บอกว่าเลย 7 นาทีไปนิดนึงก็ได้

ได้เวลาแล้วเอาไข่ขึ้นมาแช่น้ำเย็นทันที เปิดน้ำไหลผ่านเพื่อระบายความร้อนจากไข่ออกไปเร็วๆ ไม่งั้นมันจะสุกต่อแล้วไข่แดงก็จะสุกแข็ง ไม่เป็นยางมะตูม ปอกเสร็จแล้วก็เอาด้ายเย็บผ้า ผูกกับที่ยึดแน่นดีแล้วก็ผ่าไข่ต้มด้วยด้ายนั่นเลย ทีนี้ก็ได้เวลาเผยโฉมไข่ต้มยางมะตูมตัวจริงแล้ว..ไข่แดงฉ่ำเป็นมันเยิ้มตัดกับสีของไข่ขาว น่ากินที่สุด แจนว่าเอาน้ำปลาโรยหน่อยคลุกข้าวร้อนๆ ก็อร่อยดีนะ

แต่วันนี้มาทำน้ำยำราดกันดีกว่า..ง่ายนิดเดียวค่ะ เอาน้ำปลาน้ำตาลปี๊ป น้ำมะนาวผสมกันตามชอบนะคะ แล้วซอยหอมแดง พริกขี้หนู ผสมลงไปเลย เอาน้ำยำ ราดลงบนไข่ที่เราผ่าเรียงไว้แล้วในจาน โรยด้วยต้นหอมผักชีซอยหน่อยก็จะสวยดี..

เอาข้าวสวยร้อนๆ มาเร็วเข้า..อร่อยสุดยอดไปเลยค่ะ

เรื่องและภาพโดย: แจน พิมยาดา

http://twitter.com/starfishQ9

2/14/2554

แกงขี้เหล็ก

ของขมๆ..ก็อร่อยดีนะ




ตอนเด็กๆจำได้ว่าพวกเราได้สนุกกันยกใหญ่ เวลา ยายใช้ให้ไปเก็บใบขี้เหล็กมาแกง เพราะจะได้ปีนป่ายทะโมน แย่งกันเก็บยอดขี้เหล็กอ่อนๆ ยายจะกำชับว่าเอาดอกมันด้วยนะ แจนว่าดอกขี้เหล็กสวยดี ดอกเป็นช่อใหญ่ สีหลื่องอมเขียว ส่วนตัวเลยจะเลือกเก็บแต่ดอกขี้เหล็กแบบที่ยังตูมๆ พอเอามารูดออกจากกิ่งมันจะเป็นเม็ดๆ เหมือนเม็ดถั่วเหลือง ขี้เหล็ก ผักพื้นบ้านอันนี้เป็นอาหารที่ขาดไม่ได้ในทุกภาค ไม่ว่าภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคใต้ และภาคกลาง และเป็นอาหารที่ขาดไม่ได้ในร้านข้าวแกงทั่วราชอณาจักรไทย เมื่อพูดถึงแกงขี้เหล็ก ต่างก็น้ำลายสอนึกอยากกินขึ้นมาครามครัน



ขี้เหล็กมีขายในตลาดสดทั่วๆ ไป มี 2 ประเภทคือ ประเภทต้มไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมที่จะนำไปทำแกงกินกับประเภทใบและดอกขี้เหล็กสดๆ มัดเป็นกำใหญ่ มีทั้งยอดอ่อนและช่อดอกรวมกัน ประเภทต้มแล้วกำไว้จะขายเป็นก้อนกลม ปัจจุบันชั่งเป็นกิโลขาย


การซื้อขี้เหล็กนั้น ส่วนใหญ่นิยมซื้อที่ต้มแล้วมาทำแกงกิน เพื่อประหยัดเวลาและลดขั้น ตอนการปรุงลง แต่คนที่พิถีพิถันในการปรุงอาหารจะซื้อขี้เหล็กสดเป็นช่อมาทำเอง  ทั้งนี้ข้อดีคือได้เลือกใบอ่อน จนมาถึงอ่อนกลางได้ สามารถล้างทำความสะอาดได้อย่าง หมดจด ต้มน้ำ ใส่เกลือ ล้างขมได้รสเป็นที่พอใจ ส่วนที่ซื้อเขามา มักจะปนใบแก่มามากเกินไปต้องคัดออก และก่อนต้มอาจไม่มีการล้างใบและดอกขี้เหล็กก่อน บางเจ้าต้มได้ไม่พ้นขม ทำให้เมื่อนำมาแกงแล้วรสออกขมเกินไป ความสดใหม่น้อยกว่าที่มาทำเอง

ขี้เหล็กมีขายในท้องตลาดทั้งปี โดยเฉพาะที่เป็นใบอ่อน ส่วนดอกแม้จะมีทั้งปีก็ตาม แต่ดอกจะหนาแน่นในฤดูฝน ดอกขี้เหล็กอร่อยมาก โดยเฉพาะดอกที่ยังตูมอยู่ จะมีรสขม มันหวาน เมื่อแกงเข้าเครื่องแกงและกะทิ รสชาติไปด้วยกันได้เป็นอย่างดีขี้เหล็กมีสรรพคุณเป็นยาระบายอ่อนๆ สามารถขับพิษร้ายออกจากร่างกายได้ เป็นยานอนหลับธรรมชาติอย่างดียิ่ง ในใบขี้เหล็กจะมีสารระงับประสาทช่วยคลายความเครียด ดอกขี้เหล็กแก้หืด รักษารังแค นอกจากนี้ขี้เหล็กยังมีสารเบต้าแคโรทีน ที่ร่างกายจะนำไปสร้างวิตามินเอ บำรุงสายตา ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง แถมยังมีวิตามินซีสูงอีกด้วย

แกงขี้เหล็กที่นิยมกันทั่วบ้านทั่วเมืองคือแกงกะทิขี้เหล็กใส่เนื้อย่างหรือหมู หรือปลาย่างแทนก็ได้ ส่วนแกงแบบพื้นบ้านทางภาคเหนือก็แกงบวน ภาคอีสานแกงซกเล็ก แกงขี้เหล็กย่านาง แกงขี้เหล็กใส่วุ้นเส้น เป็นต้น ตามแบบภาคกลางแกงขี้เหล้กจะค้องใส่กระชายลงในเครื่องแกงด้วย แกงเสร็จจะหอมกระชายอ่อนๆ แกงขี้เหล็กที่ดีจะต้องข้นมันกะทิ และก็ต้องขมนิดๆ เนื้อขี้เหล็กนุ่มยุ่ย ทานกับข้าวสวยร้อนๆ แกล้มปลาเค็มทอด...อร่อยที่สุด...คิดถึงยายจังเลย..

เรื่องและภาพโดย: พิมยาดา

ส้มตำ เสน่ห์หานี้..ไม่รู้โรยรา

" อยากกินอะไรแซ่บๆ "




บอกได้เลยค่ะ ร้อยทั้งร้อยต้องนึกถึง ส้มตำ ก็เกิดมาเป็นคนไทยนี่นา คงไม่มีใครที่บอกว่ากินส้มตำไม่เป็นหรอกนะคะ อาจจะแตกต่างกันตรงชอบแบบไหน สูตรไหน จะตำไทย ตำปู ปูปลาร้า ตำซั่ว ตำป่า ก็เลือกสั่งเอาเลยค่ะ

เวลาเรากินส้มตำ ก็จะขาดของของอร่อยอื่นๆ แจมด้วยไม่ได้ ยอดฮิตก็คง ไม่พ้น ไก่ย่าง ไก่ทอด ปลาเผา ข้าวเหนียวนึ่ง ขนมจีน  รวมไปถึงอาหารอีสานอีกหลายสูตรที่ล้วนเข้ากัน เช่น ลาบ น้ำตก ใส้กรอกอีสาน ผัดหมี่ โอยน้ำลายไหลค่ะ

ส้มตำเป็นอาหารแห่งมิตรภาพนะคะ เพราะเวลากินกันหลายๆคน จะอร่อยกว่ากินคนเดียว แปลกนะ ลองสังเกตุวงส้มตำทุกวงก็จะพบรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ พูดคุยกันออกรส เสียงโหวกเหวกนั่นนี่ " ส่งจานนั้นให้หน่อย " ช้าวเหนียวหมดแล้วหรอ " เอาอีกครกป่ะ..เผ็ดๆนะ " " ขอไก่ทอดอีกที่ค่ะ " สารพัดเรื่องราว รวมทั้งน้ำหูน้ำตา เผ็ดเปรี้ยวแซ่บสะใจ

คุณหนีส้มตำไม่พ้นหรอกค่ะ เชื่อแจนซิ่..ไม่นานก็จะโหยหา ถ้าอยากกินขึ้นมาแล้วไม่ได้กินก็จะหงุดหงิด ไม่น่าเชื่อ รสชาดนี้ที่คนไทย ไม่ยอมแลกกับเสต็ก..ไปหาส้มตำแซ่บๆกินกันดีกว่าไม๊ค่ะ

เรื่องและภาพโดย: พิมยาดา